ผศ.ดร.อภิชาต สถิตนิรามัย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด
ยุวดี คาดการณ์ไกล
คณาวุฒิ เอี่ยมสำอางค
ตั้งแต่ประเทศไทยมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540เป็นต้นมา เป็นผลให้มีการตราพ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 อาจกล่าวได้ว่า เป็นการเปิดศักราชใหม่ของการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นของไทย ก่อเกิดหน่วยปกครองในระดับพื้นที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งนอกจากหน่วยเทศบาลแล้ว ยังมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบล นับรวมจำนวนกว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศเพื่อให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน ต่อมาภายหลังยังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พ.ศ.2550 ที่เพิ่มอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากขึ้นเป็นลำดับจากวันนั้นจวบจนถึงวันนี้ 15 ปี แห่งการกระจายอำนาจยุคใหม่หากมองในแง่ดี การกระจายอำนาจได้เปิดโอกาสการพัฒนาศักยภาพและการบริหารจัดการให้กับท้องถิ่นโดยชุมชนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น อย่างไรตาม หลายฝ่ายยังเห็นร่วมกันว่าการพัฒนาความเจริญและสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ ในแง่นี้เองเมื่อคณะกรรมการจัดประชุมสมัชชาปฏิรูป ครั้งที่ 2 พ.ศ.2555 ในปีนี้เอง กำหนดให้มีการทบทวนประเด็นโครงสร้างอำนาจระหว่างรัฐบาล ท้องถิ่นและชุมชน จึงพบว่าความเหลื่อมล้ำของอำนาจดังกล่าวยังคงดำรงอยู่กล่าวคือ รัฐยังคงรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ท้องถิ่นยังประสบอุปสรรคจากกฎระเบียบที่รัฐส่วนกลางกำหนด สมัชชาปฏิรูปจึงเรียกร้องการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจเพื่อมุ่งสู่การปรับดุลอำนาจระหว่างรัฐบาล ท้องถิ่นและชุมชนงานวิจัยของ ผศ.ดร.อภิชาต สถิตนิรามัย เรื่อง รัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชนเล่มนี้ สนับสนุนโดยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลการศึกษาสอดคล้องยืนยันและสนับสนุนต่อประเด็นปัญหาที่กล่าวข้างต้น ว่าท้องถิ่นยังมีข้อจำกัดในการดำเนินภารกิจที่ได้รับการถ่ายโอนและการมีส่วนร่วมของประชาชนในกลไกการบริหารของท้องถิ่นแม้ว่ารัฐธรรมนูญในฐานะที่เป็นสถาบันหลักของชาติได้กำหนดกรอบการกระจายอำนาจไว้ชัดเจนก็ตามแต่ในทางปฏิบัติผู้วิจัยพบว่า ท้องถิ่นตกอยู่ภายใต้โครงกรอบแรงจูงใจที่ต้องรับผิดชอบต่อรัฐส่วนกลางมากกว่าเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่นขณะเดียวกันบทวิจารณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสองท่านคือ ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ และ รศ.วุฒิสาร ตันไชย ได้ให้มุมมองทั้งสนับสนุนและเสริมเพิ่มเติมแง่คิดบางประการไว้อย่างน่าสนใจ