โครงการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำร่างแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอกสารทางวิชาการ หมายเลข 3 เกษตรอินทรีย์กับทางเลือกเกษตรไทย ศาสตราจารย์ ดร.เบญจวรรณ ฤกษ์เกษม ได้รับการสนับสนุนจากโครงการนโยบายสาธารณะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีดำเนินการโดย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.)สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กันยายน 2548
ภายในเวลาเพียง 30 ปี ระบบเกษตร ในประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย มีการใช้สารเคมีเพื่อการเพาะปลูกเพิ่มขึ้นมหาศาล ผลกระทบจากใช้สารเคมีมากเกินความจำเป็น ทั้งปุ๋ยและสารกำจัดควบคุมศัตรูพืช เกิดผลเสียต่อสุขภาพผู้บริโภค ตัวเกษตรกรเอง อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในดิน แหล่งน้ำ และ ชุมชนใกล้เคียง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัญหาของระบบเกษตรปัจจุบันทั่วโลก ในบางประเทศเริ่มมีกฎหมายออกมาควบคุม เช่น กฎหมายน้ำสะอาดในสหรัฐอเมริกา(Federal Water Pollution Control Act) กฎหมายควบคุมสมดุลธาตุอาหารในฟาร์มในประเทศเนเธอร์แลนด์ เกษตรอินทรีย์เป็นทางเลือกหนึ่งของทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคในหลายประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เคมีเกษตร นอกจากเชื่อว่าเกษตรอินทรีย์ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคอาหารอินทรีย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าอาหารอินทรีย์สะอาดปลอดภัย และมีโภชนาการดีกว่า และบางคนต้องการอุดหนุนเกษตรกรรายย่อยด้วยเชื่อว่าอาหารอินทรีย์ผลิตโดยเกษตรกรรายย่อยเท่านั้น จากการเจริญเติบโตที่มีอัตราสูงถึงปีละ 20% ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ 5-15% ในประเทศต่างๆในยุโรป ทำให้หลายคนมีความหวังว่าเกษตรอินทรีย์จะเป็นหนทางรอดของเกษตรกรไทย บทความนี้ขอเสนอว่าเกษตรอินทรีย์ตามความหมายเคร่งครัดในตลาดอาหาร ที่ปฏิเสธการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของการทำเกษตรกรรม ที่มีขอบเขตที่ค่อนข้างจำกัดแม้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับประเทศไทยควรได้มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ถึงโอกาสและข้อจำกัดในระบบเกษตรอินทรีย์ทั้งการตลาดและการเพาะปลูก ขณะเดียวกันแนวคิดเกษตรเชิงนิเวศซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเกษตรอินทรีย์ควรจะได้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะมาสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของการเกษตรส่วนใหญ่ของประเทศ ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม